การปรับแต่งจักรยานให้เหมาะสมกับผู้ขี่เป็นสิ่งที่หลายคนคิดว่าไม่สำคัญมากนักกับการที่ต้องไปจ่ายเงินให้กับผู้เชี่ยวชาญมาปรับแต่งให้รวมทั้งตัวผมด้วย เพราะคิดเข้าข้างตัวเองว่า สามารถหาอ่านเองได้ใน internet แล้วก็ปรับให้ตรงกับรูปของตัวเองในกระจก
Bike fitting ผมทำครั้งแรกกับ Andrew ที่ Bike Zone ในตอนทีซื้อ Cervelo S2 ใหม่ๆ จากนั้นก็จำความรู้สึกที่ได้จากการขี่ไว้ แล้วก็มาปรับใช้กับจักรยานเสือหมอบคันอื่น
จากนั้นก็ได้ไปถอยจักรยาน Time Trial มาตัวใหม่เป็นจักรยานที่ไม่เคยปั่นมาก่อนเลยจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง Fitting ใหม่ครับ ตอนแรกพยายาปรับเองเอาตามที่เข้าใจ ลองปั่น sky lane ดูปรากฏว่าเมื่อยสุดๆครับ ปั่นไปสามรอบกลับมาที่บ้านแทบสลบปวดทั้งตัว
กลับมาบ้านเห็นไม่ได้การแล้วก็เลยต้องลองหาที่ fitting ดู จำได้ว่าที่ปากซอยเราก็มี โปรวุฒิที่รับ fitting ซึ่งเคยเจอกันโดยบังเอิญกับการปั่นในซอยหลายครั้งซึ่งผมก็ตามไม่เคยทันตามระเบียบ เคยตามผลงานใน Strava อยู่เรื่อยๆ และเคยได้แชมป์ประเทศไทยในการแข่ง Time Trial จึงคิดว่าน่าจะช่วยปรับจักรยานและแก้ปัญหาให้ได้ เลยพยายามโทรนัดดูซึ่งตอนแรกก็ว่างไม่ตรงกัน จนในที่สุดก็หาเวลานัดได้ครับ
ตำแหน่งของร้านอยู่ในซอยพหลโยธิน 64 ใกล้บ้านมากซึ่งผมก็ผ่านหลายรอบแต่ไม่เคยสังเกตุเห็นสักที เป็นห้องกระจกหน้าบ้านทำไว้สำหรับ Fitting โดยเฉพาะ
เริ่มต้น Fitting
คำถามแรกที่ได้รับคือปั่นจักรยานมานานหรือยัง เริ่มต้นคือให้ปั่นเดิมๆ ให้ดูก่อน comment แรกที่ได้รับจาก วุฒิ คือของพี่นี่ต้องแก้เยอะมาก เราก็นึกในใจว่าเราปั่นมานานนี่ผิดหมดเลยเหรอ
สิ่งที่ปรับแก้
ความสูงเบาะ- เตี้ยไปเมื่อเทียบกับความยาวขา ทำให้ออกแรงกดมากกว่าดึง ใช้กล้ามเนื้อน่องมากทำให้ เป็นตะคริวที่น่องบ่อยๆ ครับ
ระยะเอื้อม - คือระยะจากเบาะถึงที่จับเบรค ในจักรยาน TT ก็เหมือนกับการจับ Hood ในจักรยานถนนต้องรู้สึกผ่อนคลาย น้ำหนักไม่ลงมือคือสามารถไม่เอามือจับเบรคเราสามารถทรงตัวได้ หลังจากการปรับอาการมือชาของผมหายไปหมดเลย
ระยะถึง Aero Bar - ของเก่ายาวมากๆ ทำให้เอื้อมเยอะมาก เวลาจะเปลี่ยนเกียร์ต้องเอื้อมไปเปลี่ยน ต้องทำให้สั้นลง
ความสูงของ Aero Bar: เนื่องจากปรับความสูงเบาะจึงต้องปรับให่สูงขึ้นตามโดยการหงาย Stem ขึ้น ทำให้รถดูไม่ซิ่ง แต่ปั่นสบายขึ้นเยอะครับยอม
การเฉลี่ยแรงในการปั่น
ในระหว่างการ fitting วุฒิจะคอยถามและสังเกตุตลอดถึงการใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
- จะต้องมีความรู้สึกในการใช้กล้ามเนื้อต้นขามากกว่าน่องคือ 70:30 ในเกียร์ที่หนักต่างๆ และยังสอนในเรื่องการเฉลี่ยแรงระหว่างกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
-การปั่นจะต้อง กระจายแรงในรอบการปั่นให้สม่ำเสมอทั้งรอบการปั่น
-จังหวะที่ดึงเท้าขึ้นจะต้องเปิดส้นเท้า
ข้อสรุป
-กว่าจะ fit เสร็จเสียเหงื่อไปเยอะมากครับ ความรู้สึกไม่เหมือนไป fitting จักรยาน เหมือนกับไปปั่นจักรยานกับ โค้ช มีการแนะนำการปั่นให้
-Fitting เสร็จจัดตารางการซ้อมให้อีกจากข้อมูล Power Meter คุ้มจริงๆ กับเงินที่เสียไปครับ คุ้มจริงๆ ครับกับ 2000 บาท
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น